วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

มะละกอสมุนไพรพื้นบ้าน

มะละกอ (Papaya, Pawpaw, Tree Melon)

ชื่อวิทยาศาสตร์ Carica papaya L.
วงศ์ CARICAEAE
มะละกอ เดิมเป็นผลไม้พื้นเมืองของทวีปอเมริกา แต่ที่เข้ามาออกลูกออกหลานขยายพันธุ์อยู่เต็มบ้านของเราได้ เพราะชาวยุโรปได้นำมาแพร่พันธุ์จนกระทั่งได้กระจายไปทั่วทุกภาคเอเชีย โดยเฉพาะบ้านเราที่ขึ้นชื่อมาก แม้แต่ฝรั่งยังรู้จักกันอย่างกว้างขวางในนามใหม่ว่า ปาปา ย่า ป๊อก ป๊อก
ลักษณะทั่วไป มะละกอ เป็นพรรณไม้เนื้ออ่อน สูงได้ถึง 8 เมตร ไม่แตกกิ่งก้านสาขา ลำต้นตรงมีเนื้ออ่อนฉ่ำน้ำ
ใบ เป็นแฉก มีรอยเว้าเล็กๆ คล้ายขนนก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 60 ซ.ม.
ดอก เป็นช่อ ดอกตัวผู้มีสีเหลืองออกสีเขียวอ่อน กลีบบางยาวประมาณ 2 ซ.ม. ดอกตัวเมียไม่มีก้านดอก ยาวประมาณ 7 ซ.ม. ออกเป็นดอกเดี่ยวและกระจุก กลีบดอกสีขาวออกเหลือง
ผล มีลักษณะกลมยาวรี ผลอ่อนภายนอกมีสีเขียวเนื้อในสีขาว แต่เมื่อสุกงอมได้ที่จะมีสีเหลืองส้ม เนื้อหนา นุ่ม รสฉ่ำหวาน มีเมล็ดคล้ายรูปไข่สีน้ำตาลดำ ผิวขรุขระอ่อนค่อนข้างมาก ยาว 6-7 ซ.ม. มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-5 ซ.ม.
ส่วนที่ใช้ ผล ยาง ราก ใบ

สรรพคุณทางยาสมุนไพร
นำผลดิบและผลสุกมาต้มกินเป็นยา ขับน้ำดี น้ำเหลือง บำรุงน้ำนม ขับพยาธิ รักษาโรคริดสีดวงทวาร ผลสุกเป็นยาแก้ท้องผูกที่วิเศษสุดๆ ถ่ายคล่องเป็นยาระบายได้อย่างดีเยี่ยม นำเนื้อสุกมาปั่น แล้วพอกหน้าทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออกใบหน้าจะชุ่มชื้นขึ้น
คุณค่าทางอาหาร
มะละกอ สามารถนำไปประกอบอาหารต่างๆ ได้อย่างวิเศษมากมายหลายอย่าง
มะละกอดิบ ถ้าใช้ทำเป็นอาหารยอดนิยม คงหนีไม่พ้นส้มตำ
มะละกอดิบ หั่นเป็นแว่นๆ พอคำ นำไปแกงส้มใส่ปลาช่อนใส่กุ้ง
มะละกอสุก นำมาปลอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปปั่น ผสมน้ำตาล และเกลือป่น ตามอัตราส่วนที่เหมาะสม และเหมาะสำหรับคลายร้อนได้เป็นอย่างดี และมีคุณค่าทางโภชนาการอาหารอย่างมากมาย
มะละกอมีเกลือแร่ และวิตามินมาก มีคุณค่าทางอาหารไม่น้อย แคลเซียมในมะละกอช่วยป้องกันฟันผุ วิตามินซีช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน วิตามินเอช่วยในบำรุงสายตาและระบบประสาท และยังมีสารอาหารอื่นๆ อีกมาก

อ้างอิงหนังสือ คัมภีร์แพทย์สมุนไพร ผลไม้สมุนไพร และพืชผักสวนครัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น